17.30 พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เคาท์เตอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 ออกเดินทางสู่ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยเที่ยวบินที่ QR833
23.20 ถึงกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ (เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง)
01.15 ออกเดินทางสู่เมืองมาดริด โดยเที่ยวบินที่ QR147
07.50 ถึงสนามบินมาดริด หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินทางสู่เมือง “โทเลโด้” Toledo (80 กม.) ตั้งอยู่ในแคว้นคาสตีล-ลามันชา ได้ประกาศให้เมืองโทเลโด้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1986 ชม ประตูเมือง “ปูเอร์ตา เด บิซากรา” เป็นหนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของเมืองโตเลโด้ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของย่านเมืองเก่า ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 พร้อมชมสัญลักษณ์ของเมือง “ป้อมอัลกาซาร์” ผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชมด้านนอก “มหาวิหารแห่งโทเลโด้” สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่อันทรงคุณค่า ซึ่งใช้เป็นที่ประทับขององค์สังฆราชแห่งสเปน ใช้เวลาก่อสร้าง 270 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่เมือง “อัลกาลา เด เอนาเรส” (Alcalá de Henares) (108 กม.) เมืองที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1989 และยังเป็นบ้านเกิดของ Miguel de Cervantes ผู้เขียน "Don Quixote" หรือ “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันซ่า” ชมย่านเมืองเก่า “Calle Mayor” ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารในยุคกลางตั้งแต่ศตวรรษที่ 5-15 ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สร้างด้วยศิลปะยุคเรอเนสซองซ์และบาร็อก และเก็บภาพสุดคลาสสิกกับ Sancho และ Don Quixote ซึ่งเป็นรูปปั้นที่นิยมมาถ่ายภาพมากที่สุดในเมือง ชม มหาวิทยาลัย Alcalá University หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ของสเปน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1293
เย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : OCCIDENTAL CASTELLANA NORTE (1) หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารชมกรุงแมดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน กษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่ ชมด้านหน้า “สนามฟุตบอลซานเตียโก้เบอร์นาบิล” Estadio Santiago Bernabéu ของทีมราชันชุดขาว “รีลมาดริด” ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เข้าชม “พระราชวังหลวง(Royal Palace) (ขอสงวนสิทธิ์ในการงดการเข้าชมภายในพระราชวังหลวง ในกรณี มีการจัดงานพิธีต่างๆ ซึ่งอาจเข้าชมไม่ได้ หรือปรับโปรแกรมไปเข้าพระราชวังอื่นแทน) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆ ในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาร็อคโดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ กว่า 2,830 ห้อง และ ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เข้าสู่ พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor) จตุรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดในสเปนและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนหลังไปหลายร้อยปี สร้างปี 1619 แต่น่าเสียดายที่มันประสบกับความโชคร้ายหลายครั้ง โดนไฟไหม้ในปี 1631, 1670 และ 1790 และในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์ในปี 1854 เข้าสู่ “ย่านปูเอต้าเดลซอล” หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมืองเดินชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบสเปน ถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนาอันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อิสระกับการช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษข้าวผัดสเปน พร้อมเครื่องดื่ม
พักที่ : OCCIDENTAL CASTELLANA NORTE (2) หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่เมือง “เซโกเบีย” (Segovia) (92 ก.ม.) เมืองมรดกโลกแห่ง แคว้นคาสตีล และเลออน ของประเทศสเปน เขตเมืองเก่าล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 (บนฐานที่มั่นของโรมัน) และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ชมสะพานส่งน้ำโบราณ (Roman Aqueduct of Segovia) โดยสะพานส่งน้ำแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1 นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองเซโกเวีย (Segovia Cathedral) จากนั้นเดินทางสู่เมืองอาวิลา (Ávila) (64 ก.ม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! เมนู หมูหันสเปน
บ่าย หลังอาหารนำท่านชมเมือง อาวิลา เมืองโบราณอันเก่าแก่ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นคาสตีลและเลออน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเจ็ดแคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปน ชมกำแพงเมืองยุคกลางของเมืองอาวิลา สร้างขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 11 เพื่อป้องกันดินแดนสเปนจากพวกมัวร์ (Moors) ชมพลาซ่า เดอ ซานตา เทเรซา (La Plaza de Santa Teresa)โดยที่นี่จะเป็นที่ตั้งของรูปปั้นสีขาวบริสุทธิ์ของแม่ชีเทเรซ่า ซึ่งถือว่าเป็นผู้อุทิศตนและมีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปศาสนาในเมืองนี้ // จากนั้นเดินทางสู่เมืองซาลามังกา (109 ก.ม.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก : Parador de Salamanca Hotel (3) หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารชมเมือง ‘ซาลามังกา’ เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมสในแคว้นคาสตีลและเลออน ได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ในปี 1988 ชมสะพานโรมันโบราณ (Puente Romano)
ที่ยังหลงเหลือมาจากยุคประวัติศาสตร์ซึ่งมีอายุนานกว่าร้อยปี ชมมหาวิทยาลัยซาลามังกา เป็นอีกหนึ่งในมหาวิทยลัยอันเก่าแก่ของยุโรป ถูกสร้างขึ้นโดย พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 9 แห่งเลออน เข้าสู่พลาซามายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสเก่าแก่ของเมือง ‘วิหารเก่าซาลามังกา’ (Old Cathedral) อาสนวิหารซาลามังกาหลังเก่าเป็นโบสถ์โรมาเนสก์ที่สวยสดงดงามสร้างอุทิศให้กับซานตามาเรียเดลาเซเด ซึ่งก่อสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของวิหารใหม่ซาลามังกา (New Cathedral) อาสนวิหารซาลามังกาหลังใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง ที่ใช้เวลาก่อสร้างมานานสองศตวรรษ (ค.ศ. 1513-1733) ทางสู่เมือง ‘กาเซเลซ’ (204 ก.ม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ชมเมือง ‘กาเซเลซ’ เมืองโบราณ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อ 25 ปีก่อนคริสต์กาลโดยกองทัพชาวโรมันที่ขยายอาณานิคมเข้ามาถึงดินแดนคาตาเนียในอดีต ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของจังหวัดกาเซเรส และยังเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวางที่สุดในประเทศสเปน ชมเขตเมืองเก่าหรือ "ซิวดัดโมนูเมนตัล" (Ciudad Monumental) ยังคงมีกำแพงโบราณล้อมรอบอยู่โดยยังคงลักษณะที่ได้สร้างไว้ในยุคกลางอย่างสมบูรณ์ ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1986 ชมหอคอยบูคาโก (Torre del Bujaco) หอคอยมีชื่อเสียงมากที่สุดเมือง // จากนั้นเดินทางสู่เมือง “เมรีด้า” (75 ก.ม.)
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: VELADA MERIDA HOTEL (4) หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารชมเมือง “เมรีด้า” เมืองหลวงแห่งแคว้นเอ็กซ์เตรมาดูร่า ในอดีตนั้นเมืองแห่งนี้ถูกใช้เพื่อขยายอาณาเขตอาณาจักรโรมันในช่วงก่อนคริสตศตวรรษและยับยั้งการรุกรานของชนชาติต่างๆ ชมจตุรัสพลาซาเดเอสปันญา ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของป้อมอัลกาซาบา ที่สร้างขึ้นโดยผู้ปกครองชาวมัวร์ในปี 835 เพื่อป้องกันตัวจากการการต่อต้านของชาวพื้นเมือง โดยกำแพงมีความสูง 10 เมตร ชมวิหารเทพีไดอาน่า ที่สร้างอุทิศให้กับลัทธิเทวจักรพรรดิของโรมัน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 ชมสะพานโรมันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโบราณคดีเมรีดา ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกใน ค.ศ. 1993 จากนั้นเดินทางสู่เมือง เซบีญ่า (193 กม.) เมืองศูนย์กลางทางการเงิน วัฒนธรรมศิลปะของภาคใต้ของสเปน เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองอันดาลูเซีย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหาร นำท่านล่องเรือ แม่น้ำกัวดัลกิบีร์ (Guadalquivir) เป็นแม่น้ำโบราณขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านแคว้นอันดาลูเซียและมีความยาวกว่า 700 กม. และเชื่อมต่อเมืองหลวงอันดาลูเซีย เมืองเซบียา กับมหาสมุทรแอตแลนติก เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของภาพพาโนรามาที่สวยงามที่สุดของเซบียา รวมถึงศูนย์กลางประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เรือล่องไปตามสายน้ำตามทางน้ำของกะลาสีโบราณผ่านสถานที่สำคัญ เช่น Plaza de Toros de la Maestranza สะพานเก่าแก่ Barrio de Triana ในตำนาน หอคอยของปลาซา เด เอสปาญา และอาคารต่างๆ มากมายสัมผัสทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของเมืองในขณะที่เพลิดเพลินกับการล่องเรือไปตามแม่น้ำกัวดัลกิบีร์ ตามเส้นทางที่คริสโคเฟอร์ โคลัมบัส เริ่มต้นเดินทางสำรวจโลก
จากนั้นกลับเข้าสู่ฝั่งนำท่าน ชมมหาวิหารประจำเมือง (Catedral de Sevilla) มหาวิหารแห่งนี้เคยเป็นมัสยิดมาก่อน ต่อมาจึงถูกชาวคริสต์สร้างโบสถ์ครอบอีกที จากการสร้างและต่อเติมอีกหลายส่วน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับสามในบรรดามหาวิหารของคริสต์ศาสนจักร รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่วาติกัน สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1042 และสร้างเสร็จเมื่อ ปี ค.ศ. 1519 ซึ่งใช้เวลาสร้างนานเกือบ 500 ปี ชมพลาซ่าเดอเอสปานา (Plaza de Espana) กลุ่มอาคารครึ่งวงกลมตั้งเป็นแนวยาว หากมองไปแต่ละซุ้มโค้งประตูจะเห็นว่ามีตราประจำจังหวัดของประเทศสเปนเรียงตามตัวอักษรไว้อยู่ที่นี่
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารชมระบำฟลาเมงโก (Flamenco) การแสดงประจำชาติอันเป็นวัฒนธรรมที่โด่งดังของทางตอนใต้ในเมืองเซบีญ่า ระบำนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แล้วจนเมื่อปี ค.ศ.2010 องค์การยูเนสโก ก็ได้ประกาศให้ระบำฟลาเมงโก เป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมวัฒนธรรมบอกเล่าและมรดกวัฒนธรรม ด้วยจังหวะเพลงที่สนุกสนานเร้าใจ การแต่งกายมีสีสันสวยงาม
พัก : AC HOTEL, SEVILLA (5) หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมือง เซทเทนิล เด ลาส โบเดกาส “Setenil de las Bodagas” (121 กม.) เมืองเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี ที่มีความโดดเด่นและแปลกจากเมืองอื่นในสเปนที่สร้างบ้านเรือนที่แทรกไปหินผาใต้หุบเขา ที่ขนาบไปกับแม่น้ำ Trejo ที่กระแสน้ำกัดเซาะแนวหิน สองข้างทางเป็นระยะเวลานาน หลายล้านปี
จนเกิดเป็นโพรงลึกยาว ไปตามโค้งน้ำ อาคารบ้านเรือนซึ่งสร้างตามรูปแบบที่เรียกว่า Andalucian Design ที่นิยมทาบ้านด้วยสีขาวเพื่อช่วยในการระบายความร้อน จากนั้นเดินทางสู่เมืองรอนดา “Ronda” (17 กม.) เมืองเก่าแก่ขนาดเล็กแห่งแคว้นแอนดารูเซีย ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเอลทาโจ และมีแม่น้ำเอลทาโจไหลผ่านหุบเขา
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ชมเมืองรอนด้า เมืองเก่าแก่ขนาดเล็กแห่งแคว้นแอนดารูเซีย ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเอลทาโจ และมีแม่น้ำเอลทาโจไหลผ่านหุบเขา โดยมีสะพาน ปูเอนเต้นูโว (Puente Nuevo) ชม ระเบียงชมวิวในสวนสาธารณะ Alameda Del Tajo ซึ่งตั้งอยู่บนหุบเขาที่มีความสูงกว่า 150 เมตร ชมสะพานปูเอนเต้นูโว (Puente Nouvo) สะพานยุคศตวรรษที่ 18 ใช้เวลาสร้าง กว่า 42 ปี ซึ่งเชื่อมระหว่างย่านเมืองเก่าของชาวมัวร์อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังของกษัตริย์ชาวมัวร์ อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำเป็นที่อยู่อาศัยของชาวคาธอลิก // เดินทางสู่เมืองกรานาด้า “Granada” (180 กม.) เมืองในหุบเขาแห่งชนชาติมัวร์ ตั้งอยู่ตีนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada Mountains) บริเวณที่แม่น้ำดาร์โร (Darro) และแม่น้ำเฮนิล (Genil)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พัก: NH CORRECTION HOTEL, GRANADA (6) หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเข้าชม ‘พระราชวังอาลัมบรา’ (Alhambra Palace) พระราชวังนี้สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1248-1354 โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน "อาลัมบรา" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลคัมรอ" แปลว่า "(สิ่งที่มีสีแดง" เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1984
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารนำท่านเก็บภาพ ‘มหาวิหารแห่ง กรานาด้า (Cathedral of Granada) วิหารนี้สร้างขึ้นตามพระบัญชาของพระนางเจ้าอิซาเบลลาหลังการต่อสู้ทางการทหาร Conquest of Granada ที่ทำให้สิ้นสุดการปกครองของมุสลิมที่ดำเนินมายาวนานถึง 800 ปี //
........ เดินทางสู่สนามบินกรานาด้า
18.35 เกินทางสู่เมืองบาร์เซโลนา โดยสายการบิน... เที่ยวบินที่บิน...
20.05 ถึงสนามบินบาร์เซโลนา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร เดินทางกลับเข้าที่พัก
พัก: Meliá Barcelona Sarrià (7) หรือที่พักระดับใกล้เคียง 5 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชมภายใน ปาร์ค กูเอล (Park Guell) ผลงานชิ้นเอกของ สถาปนิกแอนโทนี เกาดี (Antoni Gaudi i Cornet) ชาวคาตาลัน ที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว โดยเฉพาะสวนสาธารณะแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1900 – 1914 ตั้งอยู่บนเนินเขาเอล คาร์เมล ที่อยู่คู่เมืองบาร์เซโลน่ามากกว่า 100 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี 2005 เป็นปฎิมากรรม สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม ที่ออกแแบบมีลวดลายที่สวยงาม ทำด้วยกระเบื้องโมเสก ที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างมาก จากนั้นนำท่านเก็บภาพมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ (Sagrada Familia)(เก็บภาพภายนอก) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนา
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
บ่าย หลังอาหารนำท่านเก็บภาพบริเวณด้านหน้า คาซา มิลา (Casa Mila) อาคารอพาร์ทเม้นท์ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Gaudi สถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างเกาดิกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับผลงานทั้งหมดของเขาซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางบาร์เซโลนา สร้างมาตั้งแต่ปี 1906 – 1912 เป็นอพาร์ทเม้นท์หลังสุดท้ายที่ออกแบบโดยเกาดี หลังอาหารชมความงามของเมืองบาร์เซโลนา บนยอดเขา “มองต์จูอิค” Mont Juic ชมทิวทัศน์บริเวณยอดเขา “มองต์จูอิค” Mont Juic จากนั้นเข้าสู่ จัสตุรัสคาตาลุนญ่า (Plaça Catalunya) จัตุรัสที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้เป็นหัวใจของบาร์เซโลนา จัตุรัสแห่งนี้เปิดโดยกษัตริย์อัลฟองโซที่ 13 ในปี 1927 พื้นที่นี้เคยเป็นที่ดินเปล่าที่ตั้งอยู่หน้าประตูเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ ปัจจุบันมีศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งบนสายใหญ่ของบาร์เซโลนา “ถนนลารัมบลา” La Rambla ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยถนนสายเล็กๆที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษกุ้งมังกร LOBSTER เสิร์ฟพร้อมไวน์ขาว
พัก: Meliá Barcelona Sarrià (8) หรือที่พักระดับใกล้เคียง 5 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่ La RocaVillage Outlet เชิญท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย อาทิ Armani, Burberry, Calvin Klein, Coach, Escada, Gucci, Guess, Hugo Boss, Kipling, L’Occitane, Levi’s Lacoste, Loewe, Michael Kors, Nike, Polo, Puma, Ray-Ban, Samsonite, Superdry, Swarovski, Tag Heuer, Tommy Hilfiger, The North Face, Timberland, Tumi, Versace, Zegna ฯลฯ
......... เดินทางสู่สนามบิน
16.20 ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยเที่ยวบินที่ QR146
23.40 เดินทางถึงกรุงโดฮา เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
01.10 ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินที่ QR838
12.20 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ
บริษัทฯ จะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก
เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
- ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น
- ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
15/6 ซอยช่างอากาศอุทิศ 5 แยก 6 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210